เรื่องเล่าของชาวนา
เรื่องเล่าของชาวนา???????? ????????เมื่อวันที่14 มิ.ย. ที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันได้ถอนกล้าและดำนาครบถ้วนกระบวนการ ????เรื่องเริ่มจากหลวงตา ท่านมีดำริอยากให้ พวกเราได้ปลูกข้าวไว้กิน ในวัด เพราะปีหนึ่งๆ เราแจกข้าวในผู้ป่วยทุกคน ที่มารับการรักษาที่ อโรคยศาล และระหว่าง รับการรักษา หากข้าวหมด ก็มาเบิกได้ตลอด เราจึงเป็นโรงพยาบาล แห่งเดียวในโลก ที่แจกข้าวสารให้คนไข้ และญาติกินกันต่อเนื่อง มาตลอด 16 ปีที่ผ่านมา
ข้าวสารเหล่านี้ มาจากที่มีผู้ใจบุญบริจาค เช่นวันหนึ่ง... มีคนไข้มะเร็งระยะสุดท้าย จากสุรินทร์ถิ่นที่ขึ้นชื่อ ว่าข้าวหอมมะลิจากสุรินทร์ ถือว่าหอมอร่อยที่สุด คุณตาเป็นมะเร็งหลอดอาหารกระจายไปปอดได้บอกลูกสาวว่า พ่อมีความสุขมากตอนที่ มารักษาตัวที่อโรคยศาล ถ้าเกี่ยวข้าวได้พ่อจะเอาข้าวมาถวายหลวงตา ภาพที่โอ๊ดจำได้คือ วันนั้นหลวงตากำลัง จะเดินทางไปบรรยายที่กรุงเทพฯ คุณลุงจากสุรินทร์นั่งรถข้ามเทือกเขาภูพานมาหกชั่วโมง เพื่อนำข้าวสารสามกระสอบ มาถวายเพื่อให้แจกผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ พร้อมก้มลงกราบหลวงตาด้วยความดีใจ น้ำตาคลอเบ้า ชาวนาคนหนึ่ง ที่ดีใจเหลือเกินที่ได้กลับมา ในที่ที่เขาเคยมีความสุข ได้รับความรักความเมตตา จากทุกทุกคน จากวันนั้นถึงวันนี้ แม้คุณลุงจะจากไปแล้ว แต่เรารู้สึกว่า คุณลุงคือชาวนาผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ต้องมีเงินแต่รวยน้ำใจ พอมาปีนี้หลวงตามอบหมายให้พวกเราปลูกข้าว โชคดีที่ครอบครัวน้องจัน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่วัด ตั้งใจถวายต้นกล้าที่กำลัง สีเขียวสวยในท้องนา ให้พวกเราชาวอโรคยศาล ได้ถอนกล้าเพื่อไปดำนา เราไปกันแต่เช้า ทอดลูกชิ้นทอดไปเป็นเสบียงตั้งใจกินข้าง เถียงนาน้อย เราเตรียมชุด พร้อมสำหรับไปถอนกล้า นั่นรถอีแต๋นกันไป เมื่อไปถึงทางเจ้าของนา คือแม่ของน้องจันผู้แสน จะขยัน ถอนกล้ารอเราแล้ว เกือบสิบมัด พวกเรา ทีมหมอ พยาบาล ได้ถอนกล้าครั้งแรก เหลือบไปมองทุกคน ถอนเร็วมากและถอนอย่าง ทนุถนอม ระวังไม่ให้ต้นกล้าหัก คุณป้าศรีก็ถอนกล้าโดยมีเด็กน้อยมานั่งเชียร์ อยู่ที่คันนา และนับว่า ฟ้ายังปราณีเรา ที่อากาศไม่ร้อนเลย เย็นสบายเหมือนฝนจะตก เทวดาเมตตาเป็นแน่แท้
รวมแล้วเราได้กล้าทั้งหมด 60 มัด นำกลับมาดำนา ที่อโรคยศาล โดยมีญาติผู้ป่วย และเจ้าหน้าที่ และหลวงตา ที่เมตตามาร่วมดำนาด้วย มีน้ำโอเลี้ยงเย็นชื่นใจ ไว้บริการชาวนาทุกคน ตอนนี้ต้นกล้าเรา รอลุ้นว่าเขาจะโตไหม แต่สิ่งหนึ่งที่เรารับรู้คือ เรารู้สึกเคารพและนับถือ ชาวนาทั้งหลาย ที่ปลูกข้าวให้เรากิน ความยากลำบากกว่าจะได้ข้าวมาสักเม็ด หยาดเหงื่อ แรงใจ ล้นฟ้าลุ้นฝน และปัจจัยต่างๆ มันไม่ง่ายเลย เรารอวันที่จะเห็นต้นกล้า ของเราอยู่รอด หลวงตาอยากให้เอาควายในวัดได้แก่ คุณพรรษา คุณนำโชคและตัวอื่น สอนเขาไถนา เรารอวันจะได้เห็นสีเขียวสวยที่ตัดกับท้องฟ้าสีฟ้า มันคงสวยงาม อย่างบอกไม่ถูก ขอขอบพระคุณหลวงตา ที่มอบโอกาสดีๆในชีวิต ให้ได้เรียนรู้เพิ่มขึ้นทุกวัน ขอบคุณแม่ของจัน จันและโล้นที่ถวายต้นกล้า ให้เราเอาไปปลูก ขอบคุณเจ้าหน้าที่และญาติ ผู้ป่วยทุกคนที่ช่วยกัน อย่างมีความสุข หากปล่อยให้เราทำเอง เห็นทีจะไม่ได้กินข้าว เป็นแน่แท้????????